ใบกัญชง

มีส่วนประกอบของสาร สำคัญที่ชื่อว่า CBD ย่อมาจาก cannabidiol

ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น

กาบา

Gamma aminobutyric acid

ทำหน้าที่รักษาสมดุลในสมอง ช่วยให้สมองเกิดการผ่อนคลาย

วิตามินบี 12 สูง

มีส่วนช่วยในการทำงาน

ของระบบประสาทและสมอง

วิตามินซีสูง 200%

ช่วยสร้างคอลลาเจนให้ร่างกาย

ปกป้องเซลล์และต่อต้านอนุมูลอิสระ

ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

น้ำตาลน้อย

เพียง 4 กรัม / ขวด

30 แคลอรี

ผลคามู คามู

ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในโลก 

วิตามินซีมากกว่าเลมอนถึง 103 เท่า*

CAMU C INGREDIENTS

ใบกัญชง

กัญชง มีสรรพคุณมากมาย อาทิ ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น ช่วยให้นอนหลับสบาย รักษาอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะหรือไมเกรน โดยสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน

ไม่ว่าจะเป็น ช่อดอก ใบ เมล็ด เปลือก ลำต้น กิ่งก้าน และราก ซึ่งสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย

1. ช่อดอก นิยมสกัดเอาสารกลุ่ม Phytocannabinoids ที่มีคุณสมบัติทางยา อาทิ CBD (สามารถบริโภคโดยตรง หรือนำไปเป็นส่วนผสมเพื่อเพิ่มมูลค่าในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล และเวชสำอางต่างๆ) Terpenes (ให้กลิ่นที่นำมาผลิตน้ำหอมและน้ำมันหอมระเหย)

2. ใบ นำมาสกัดเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารและเครื่องดื่ม ปุ๋ยชีวภาพ ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง แผ่นใยไม้อัด ไฟเบอร์กลาส

3. เปลือก ลำต้น ทำเป็นเส้นใย นิยมนำมาทําเป็นเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เชือก เสื้อเกราะกันกระสุนชั้นดีที่มีน้ำหนักเบา เยื่อกระดาษ วัสดุหีบห่อ ฉนวนกันความร้อน ไบโอพลาสติก แกนลำต้น มีน้ำหนักเบาใช้ทำอิฐ หรือผสมคอนกรีต (Hempcrete) สำหรับงานก่อสร้าง ส่วนประกอบรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์

4. น้ำมันและสารสกัดจากเมล็ดกัญชง ใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง (อาทิ โปรตีน วิตามินอี โอเมก้า)

กัญชง เป็นพืชในวงศ์ Cannabaceae มีแหล่งกำเนิดในเอเชียกลางและแพร่กระจายไปสู่เอเชียตะวันออก อินเดีย และในทวีปยุโรป มีลำต้นสูง หนา แข็งแรง ความสูงเมื่อเติบโตเต็มที่ประมาณ 6 เมตร ระยะเวลาการเก็บเกี่ยว 3-4 เดือน

ต้นกัญชง เป็นพืชให้ใยธรรมชาติที่มีความทนทาน วัตถุประสงค์ในการใช้ประโยชน์ระหว่างกัญชากับกัญชงก็ต่างกันมาก นับตั้งแต่มนุษย์รู้จักการใช้พืชตระกูลนี้มาตั้งแต่โบราณ มีบันทึกประวัติศาสตร์ถึงการใช้ประโยชน์กัญชงมากกว่ากัญชา ในยุคล่าอาณานิคม นักเดินเรือ จะนำใยกัญชงมาทำเป็นเชือกและผ้าใบเรือซึ่งมีความทนทานมาก ในประเทศจีน ยุคราชวงศ์โจว (ประมาณ 1,000 ปี ก่อนคริสตศักราช) ใช้เส้นใยกัญชงทอเป็นเครื่องนุ่งห่ม ส่วนเมล็ดกัญชงก็พบว่าเป็นธัญพืชที่รับประทานกันทั่วโลกมานานหลายพันปีแล้ว

กาบา

Gamma aminobutyric acid

เป็นสารอาหารกลุ่มโปรตีนที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นสารสื่อประสาท ทำหน้าที่รักษาสมดุลในสมอง ช่วยให้สมองเกิดการผ่อนคลาย ถ้าหากสมองมีระดับ กาบ้า ต่ำเกินไปก็อาจนำไปสู่ความวิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ และความผิดปกติทางอารมณ์ได้

ประโยชน์ของกาบา มีส่วนช่วยขจัดความเครียดและวิตกกังวล มีการศึกษาประสิทธิภาพของกาบ้ามีส่วนช่วยลดความวิตกกังวล ในการทดลอง ได้แบ่งกลุ่มอาสาสมัครออกเป็นกลุ่มที่ได้รับกาบ้า และกลุ่มที่ได้รับยาหลอก จากนั้นประเมินผลโดยวัดคลื่นสมองของอาสาสมัคร ซึ่งพบว่า เพียง 1 ชั่วโมงหลังการทดลอง อาสาสมัครกลุ่มที่ได้รับกาบ้า  มีคลื่นอัลฟาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากคลื่นอัลฟา เป็นคลื่นในสมองชนิดความถี่ 8 ถึง 13 Hz. จะเกิดขึ้นเมื่อเรารู้สึกสงบและผ่อนคลาย ซึ่งจะทำให้สมองสามารถเรียนรู้และจดจำได้ดี พบได้ในผู้ที่มีสมาธิดี มีความสุข หรือเรียกได้ว่าเป็นสภาวะที่จิตมีประสิทธิภาพสูงนั่นเอง และยังส่งเสริมการเรียนรู้และความจำ มีงานวิจัยพบว่า กาบ้าสามารถลดการเกิดอาการอัลไซ-เมอร์ และโรคความผิดปกติของสมอง เช่น อาการหลงลืม ได้ และยังพบอีกว่า กาบ้าสามารถป้องกันสมองจากการถูกทำลายโดยสารเบต้า-อไมลอยด์เปปไทด์ (Beta-amyloid peptide) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ได้  2

วิตามิน B12

วิตามิน B12 เป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อร่างกาย มีส่วนช่วยสร้างสารที่จำเป็นในการสร้างเม็ดเลือดแดง มีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน และเป็นกุญแจสำคัญ ที่มีส่วนช่วยในการทำงานเป็นปกติของประสาทและสมอง

วิตามิน B12 เป็นกลุ่มของสารอาหารที่มีโคบอลต์ (Co) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด จัดเป็นสารอาหารประเภทวิตามินที่ละลายในน้ำ วิตามิน B12 เป็นวิตามินเพียงตัวเดียวที่มีแร่ธาตุเป็นส่วนประกอบ และเป็นวิตามินที่มีโครงสร้างซับซ้อน ขนาดโมเลกุลใหญ่ที่สุด และสามารถสังเคราะห์ได้ โดยการหมักแบคทีเรีย (Bacterial Fermentation-synthesis) แล้วนำมาใช้เสริมอาหารและเป็นวิตามินเสริม

แหล่งของวิตามิน B12 ที่ได้พิสูจน์แล้ว คือ ตับ ไต เนื้อ เนื้อหมู ปลาเค็ม ปลาหมึก น้ำปลา เนื้อแกะ ปลาเนื้อขาว หอย ไข่ นม เนย เนยแข็ง โยเกิร์ต รำข้าว ข้าวซ้อมมือ ถั่วเมล็ดแห้ง ถั่วหมัก (ถั่วเน่า) เต้าเจี้ยว ซีอิ๊ว และผักใบสีเขียวแก่ และเป็นที่น่าสังเกตว่า วิตามินชนิดนี้จะพบในสัตว์มากกว่าในพืช

การขาดวิตามิน B12 เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคโลหิตจาง และก่อให้เกิดอาการหดหู่ มือเท้าชา อ่อนเพลีย เซื่องซึม ปวดศีรษะ หูอื้อ เป็นแผลในปาก ตาพร่ามัว และอาจพบการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์อีกด้วย

แหล่งที่มาของข้อมูล

  1. เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, 2562, บัญชีแสดงข้อความกล่าวอ้างหน้าที่ของสารอาหาร, ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่องการแสดงข้อความกล่าวอ้างหน้าที่ของสารอาหาร, หน้า 5
  2. Yamada, Kazuhiro (2013). "Chapter 9. Cobalt: Its Role in Health and Disease". ใน Sigel, Astrid; Sigel, Helmut; Sigel, Roland KO (บ.ก.). Interrelations between Essential Metal Ions and Human Diseases. Metal Ions in Life Sciences. 13. Springer. p 295 -320. doi:10.1007/978-94-007-7500-8_9
  3. "Dietary Supplement Fact Sheet: Vitamin B12". Office of Dietary Supplements, National Institutes of Health. ค้นเมื่อ 28 กันยายน 2554

วิตามินซี

วิตามิน C เป็นสารที่มีส่วนช่วยในสร้างคอลลาเจน เพื่อช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย ปกป้องเซลล์และต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติ รวมถึงช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กให้กับร่างกาย และช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข (THAI FDA) แนะนำให้ประชากรปกติ รับประทานวิตามิน C อย่างน้อย 60 mg ต่อวัน

วิตามินซีจัดเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย และร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง ต้องได้จากการรับประทานอาหาร หรือรับประทานในรูปแบบวิตามินเสริมเข้าไปเท่านั้น

ชนิดหรือแหล่งที่มาของวิตามินซีสำหรับการรับประทานเสริมในปัจจุบัน พบว่ามีทั้งที่เป็นวิตามินซีจากธรรมชาติ (Natural Vitamin C) ซึ่งสกัดได้จากผักและผลไม้ต่างๆ ที่มีรสเปรี้ยว และวิตามินซีสังเคราะห์(Synthetic Vitamin C) ซึ่งได้จากกระบวนสังเคราะห์ทางเคมี จากรายงานการศึกษาทดลองในมนุษย์ ยังไม่พบรายงานว่าวิตามินทั้ง 2 ชนิดนี้ ให้ผลของชีวประสิทธิผลที่ต่างกัน ดังนั้นการรับประทานวิตามินซีจากธรรมชาติ หรือวิตามินซีสังเคราะห์ ร่างกายก็จะได้รับวิตามินซีในปริมาณที่ไม่ต่างกัน

แหล่งที่มาของข้อมูล

  1. อ.ดร.สุภาวดี สืบศาสนา, สิ่งที่ต้องรู้ ก่อนการพิจารณาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร“วิตามินซี”, บทความเผยแพร่ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, https://pharm.tu.ac.th/rx-articles, ค้นเมื่อ 20 เมษายน 2564
  2. เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, 2562, บัญชีแสดงข้อความกล่าวอ้างหน้าที่ของสารอาหาร, ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่องการแสดงข้อความกล่าวอ้างหน้าที่ของสารอาหาร, หน้า 5-6
  3. รัฐมมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, 2541, สารอาหารที่แนะนำให้บริโภคประจำวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป, แนบท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 182) เรื่องฉลากโภชนาการ, หน้า 3-3

น้ำตาลน้อย

น้ำตาลน้อยเพียง 4 กรัม ได้รับเครื่องหมายทางเลือกเพื่อสุขภาพ

ดื่มได้ไม่ต้องกลัวอ้วน คนเป็นโรคเบาหวานสามารถดื่มได้ในปริมาณที่เหมาะสม

คามู คามู

คามู คามู เป็นผลไม้ที่จัดว่าเป็น Super Fruit ที่ให้ค่า ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity) ที่แสดงถึงความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบสูงเป็นผลไม้ที่พบได้ไม่ยากในอเมริกาใต้

คนท้องถิ่นจึงนิยมนำมาทำอาหารหลายชนิด ทั้งน้ำผลไม้ ไอศกรีม แยม โยเกิร์ต และปรุงอาหารอื่นๆ

นอกจากนี้ คามู คามู ยังถูกนำไปใช้เป็น Functional Food ทั่วโลก และใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์วิตามินซีสูง ที่เราพบกันทั่วไป ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบสารสกัดจากผลสด เช่น ผงคามู คามู, คามู คามู ชนิดเม็ด และชนิดแคปซูล เป็นต้น ส่วนในบ้านเราก็เป็นส่วนผสมของเครื่องดื่ม เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันและบำรุงผิวพรรณให้แลดูกระจ่างใส

คามู คามู เป็นไม้พุ่มที่มีขนาดเล็กประมาณ 3-5 เมตร มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Myrciaria dubia มีแหล่งกำเนิดในพื้นที่ริมน้ำของเขตป่าฝน แถบแอมะซอน ที่กินบริเวณหลายประเทศ ตั้งแต่ บราซิล เวเนซุเอลา โคลัมเบีย และเปรู มีชื่อในภาษาถิ่นว่า camucamu, camocamo และ cacari มีผลสีม่วงแดงคล้ายผลเชอร์รี ขนาดเท่าผลมะนาวใหญ่ๆ ใบและผลสามารถทำยาสมุนไพรได้สารพัด มีคุณสมบัติต้านการติดเชื้อไวรัส รักษาแผล งูสวัด เป็นยาแก้ไข้ ปวดหัว แก้หอบหืด แก้อาการเซื่องซึม รักษาสมดุลทางอารมณ์ รักษาต้อหิน ต้อกระจก เพิ่มภูมิคุ้มกัน รวมถึงการต้านอนุมูลอิสระ

คามู คามู คือ ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมากกว่าปริมาณของวิตามินซีในเลมอนถึง 103 เท่า นอกจากนี้ ยังมีเบตา-แคโรทีน โปรตีน และกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

แหล่งที่มาของข้อมูล

  1. อภิรดา มีเดช, 2014, อะไรคือ คามู คามู, https://waymagazine.org/camucamu, ค้นเมื่อ 20 เมษายน 2564
  2. Roberta B. Rodriguesa, Hilary C. De Menezesa, Lourdes M.C. Cabralb, Manuel Dornierc,d*, Max Reynesc,d, 2001, An Amazonian fruit with a high potential as a natural source of vitamin C: the camu-camu (Myrciaria dubia), Fruits, vol. 56 (5), p 345-354

คามูซี พลัส ใบกัญชง

เครื่องดื่มวิตามินซีผสมสารสกัดจากใบกัญชง มีวิตามินซี 200% กาบา และวิตามินบี 12

น้ำองุ่นขาวจากน้ำองุ่นขาวเข้มข้น 10% / น้ำตาล 0.6% / วิตามินซี 0.080% / ผงใบกัญชง 0.01%/ กาบา 0.006% / ผง คามู คามู 0.025% / วิตามินบี 12 0.00015% / สารทำให้คงตัว (INS440, INS418) / สารควบคุมความเป็นกรด INS330, INS296,INS331(iii) / สารให้ความหวานแทนน้ำตาล (ซูคราโลส, มัลทิทอลไซรัป) /สีธรรมชาติ INS141(ii) / แต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติ,รับประทานครั้งละ 1 ขวด
Back
to top

CONTACT US

บริษัท อาร์เอส ลิฟเวลล์ จำกัด

27 อาคาร อาร์เอสกรุ๊ป ทาวเวอร์ เอ ชั้น 5 ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
Call us 02 038 3333